หันไปทางไหนทำไมใคร ๆ ก็ต่างมีบ้าน มีคอนโดกันทั้งนั้น แล้วถ้าหากเราต้องการจะมีบ้านหรือคอนโดเหมือนอย่างใครเขา เราควรซื้อ “เงินสด” หรือ “เงินผ่อน” ดีนะ?! แต่เดี๋ยวนี้ไม่ว่าใคร ๆ ก็ล้วนแต่ซื้อเงินผ่อนกันทั้งนั้น แล้วถ้าดอกเบี้ยมันแรงพอ ๆ กับเงินต้นแล้วจะคุ้มไหมนะ?! แต่ซื้อเงินสดไป แล้วจะเอาเงินที่ไหนกิน เล่น เที่ยว ช้อปลิสต์ของที่อยากได้ล่ะ?! เฮ้อ แค่คิดก็กลุ้มใจแล้ว หากใครยังคิดไม่ตก วันนี้ทางเราจะมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของการซื้อบ้านหรือคอนโด “เงินสด” และ “เงินผ่อน” ว่าแท้จริงแล้ว แบบไหนคือสไตล์การใช้ชีวิตของเรา แล้วเพื่อน ๆ ลองนำไปปรับใช้หรือพิจารณาดู
● เริ่ด ๆ เชิ่ด ๆ ไม่ต้องการผูกมัด ไม่อยากเสียดอกเบี้ย เจ็บแต่จบ “เงินสด” สิตอบโจทย์
หากคุณเป็นคนที่กลัวดอกเบี้ยเป็นชีวิตจิตใจ ไม่อยากมีอะไรให้มาภวังค์ทุกเดือน อีกทั้งสภาพการเงินของคุณคล่องแบบชนิดที่ว่าซื้อบ้านในราคาหลายล้านก็ยังมีเงินเหลือไปใช้ชีวิต ชิม ช้อป เที่ยวแบบจุใจ ไม่ต้องเก็บเล็กผสมน้อยให้เหนื่อยใจแล้วล่ะก็ อย่าลังเลที่จะเลือกช้อยส์นี้ ต่อไปนี้เราจะมาพูดถึงข้อดีของการซื้อบ้านหรือคอนโด “เงินสด” ว่ามีอะไรบ้าง อย่างแรกเลยก็คือไม่ต้องมาเสียเหงื่อ เสียสติกับงานเอกสารต่าง ๆ ที่จะต้องเตรียมเพื่อยื่นเรื่องสินเชื่อบ้าน ไม่ต้องรอลุ้นผลจนตัวโก่งว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ไม่ต้องคำนวณค่าจดจำนองให้ยุ่งยาก และที่สำคัญไม่ต้องเสียดอกเบี้ยที่รวมแล้วเกือบเท่ากับเงินต้น แต่ก็อย่างที่บอกไปข้างต้นหากคุณเป็นคนที่ไม่ได้มีเงินเก็บเหลือมากขนาดนั้นอาจจะทำให้เสียโอกาสในการลงทุน เพราะการซื้อบ้านเงินสดถือเป็นการจมเงิน ส่งผลให้ไม่มีเงินเหลือไปลงทุนหรือต่อยอดธุรกิจ และการลดหย่อนภาษี แม้ว่าการซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินสดนั้นจะสามารถลดหย่อนภาษีได้ แต่ก็อาจจะไม่ได้เปรียบเท่าการซื้อด้วยเงินผ่อน
● ชิว ๆ มีเงินเหลือไปต่อยอดธุรกิจ ไปใช้ชีวิต “เงินผ่อน” ก็นับเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
สำหรับใครที่อยากจะใช้ชีวิตไปด้วย สร้างเนื้อสร้างตัวไปด้วย การซื้อบ้านหรือคอนโดด้วยเงินผ่อนก็เข้าท่า แม้ว่าดอกเบี้ยอาจจะหนักหนาสาหัส แต่ก็นับเป็นข้อดีที่คุณจะระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น เพราะด้วยภาระหนี้สินที่มีอยู่ อีกทั้งยังอาจจะต้องวางแผนและมีเงินสำรองพร้อมใช้สำหรับกรณีฉุกเฉิน แต่ก็อย่ากังวลไประหว่างที่เราผ่อนนั้นอาจจะนำเงินในส่วนที่เหลือไปต่อยอดกับธุรกิจหรือลงทุนเพิ่มเติมก็ย่อมได้ เพียงแต่ต้องยอมปวดหัวกับเรื่องงานเอกสารในช่วงแรก ๆ อีกทั้งยังต้องรอลุ้นให้ใจเต้นตุ่ม ๆ ต่อม ๆ ว่าสินเชื่อบ้านที่ยื่นไปนั้นจะผ่านไหมนับเป็นเรื่องหนักใจมากเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีข้อได้เปรียบสำหรับเรื่องการลดหย่อนภาษี
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเรื่องทางไหนก็ล้วนแต่มีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคุณว่าต้องการเรื่องเบาใจหรือหนักใจเรื่องไหน อาทิ ภาระหนี้ โอกาสการลงทุน การลดหย่อนภาษี ขั้นตอนต่าง ๆ ลองค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ตัดสินใจ แล้วเลือกไปในทางที่เหมาะกับคุณ ทางเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้อาจจะมีส่วนช่วยให้คุณทำการตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น