ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

สำหรับเว็บไซต์และบริการของ บริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด และ/หรือ บริษัทในเครือ และ/หรือ บริษัทร่วมทุน และ/หรือ พาร์ทเนอร์ของบริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด

 

ยินดีต้อนรับท่านเข้าสู่เว็บไซต์ www.manadevelopment.co.th โดยเว็บไซต์นี้จัดทำขึ้นโดย MANA DEVELOPMENT CO., LTD. หรือ บริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด เรียกโดยย่อว่า “MANA” โดย MANA ให้ความสำคัญและเคารพต่อความเป็นส่วนตัวของท่าน และข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นอย่างยิ่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ท่านว่าทาง MANA จะให้บริการแก่ท่านอย่างเต็มความสามารถ พร้อมกับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างดีที่สุด และสอดคล้องกับหลักของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และกฎหมายลำดับรองอื่นที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) จึงขอประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้ท่านทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน พร้อมกับวัตถุประสงค์ในการดำเนินการลักษณะดังกล่าว ดังต่อไปนี้

 

คำนิยาม

ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Identifiable Information) หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

 

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Act (PDPA)) หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (2019) ของประเทศไทย และรวมถึงกฎหมายลำดับรองอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

บริษัท (Company) หมายถึง บริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด (MANA DEVELOPMENT CO., LTD.) และ/หรือ บริษัทในเครือ และ/หรือ บริษัทร่วมทุน และ/หรือ พาร์ทเนอร์ของบริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด

 

การประมวลผลข้อมูล (Data Processing) หมายถึง การดำเนินการหรือชุดการดำเนินการใด ๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบ จัดโครงสร้าง เก็บรักษา เปลี่ยนแปลง หรือปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวาง หรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย

 

ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (Sensitive Personal Identifiable Information) หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของบุคคล แต่มีความละเอียดอ่อนและสุ่มเสี่ยงต่อการถูกใช้ในการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จึงจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ข้อมูลพันธุกรรม, ข้อมูลชีวภาพ, ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ หรือข้อมูลสุขภาพจิต, เชื้อชาติ, เผ่าพันธุ์, ศาสนา, ความเชื่อในลัทธิหรือปรัชญา, ความคิดเห็นทางการเมือง, พฤติกรรมทางเพศ, ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสหภาพแรงงาน, และข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการประกาศกำหนด

 

ข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล (Personal Data Breach) หมายถึง การรั่วไหลหรือละเมิดมาตรการความมั่นคงปลอดภัยต่อข้อมูลส่วนบุคคล ทำให้เกิดความเสียหาย, สูญหาย, เปลี่ยนแปลง, เปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต, หรือเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้งาน

 

เจ้าของข้อมูล (Data Subject) หมายถึง บุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลสามารถระบุหรือบ่งชี้ไปถึงได้ เป็นผู้มีสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

ผู้ควบคุมข้อมูล (Data Controller) หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานหรือองค์กรใด ซึ่งเป็นผู้กำหนดวัตถุประสงค์และวิธีการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ในที่นี้หมายถึง บริษัท

 

ผู้ประมวลผลข้อมูล (Data Processor) หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานหรือองค์กรใด ซึ่งประมวลผลข้อมูลแทนผู้ควบคุมข้อมูล

 

สคส. (OPDPC) หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Office of the Personal Data Protection Committee) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐที่ควบคุมให้มีการปฏิบัติตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

คุกกี้ (Cookies) หมายถึง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (Text file) ที่จะถูกติดตั้ง หรือบันทึกลงบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของท่าน เช่น แท็บเลตหรือสมาร์ทโฟน เมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ คุกกี้จะจดจำข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เช่น สถานะการเข้าใช้งานในปัจจุบันของคุณ ข้อมูลการตั้งค่าภาษา ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าใช้งานบนเว็บไซต์และ/หรือแอปพลิเคชันที่คุณชื่นชอบ ทั้งนี้ เราจะเรียกเทคโนโลยีอื่นที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกันว่าคุกกี้ด้วย

 

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer) หมายถึง พนักงานของบริษัท ผู้ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของบริษัทให้เป็นไปตามหลักกฎหมายของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยสามารถติดต่อได้ผ่านไปรษณีย์อีเล็กทรอนิกส์ dpo@manadevelopment.co.th

 

รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่ดำเนินการโดยบริษัท ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ตามหลักพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

 

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่าน

 

ในการดำเนินงานของบริษัท จะเกิดการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับไม่ว่าจากทางตรงหรือทางอ้อม ด้วยความจำเป็นหรือด้วยความยินยอมของท่าน โดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจะได้รับอาจหมายรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ ข้อมูลดังต่อไปนี้

 

- ข้อมูลแสดงตัวตนของท่าน เช่น ชื่อ, นามสกุล, เพศ, อายุ, สัญชาติ, วัน/เดือน/ปีเกิด, สถานภาพสมรส

- ข้อมูลการติดต่อของท่าน เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์, ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail address), ไอดีไลน์ (Line ID) หรือไอดีของแอปพลิเคชั่นติดต่อสื่อสารอื่น ๆ

- ข้อมูลทางการเงินของท่าน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร, หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต, ข้อมูลรายได้ต่อเดือน, ข้อมูลการชำระเงิน

- ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน เช่น หมายเลขไอพี (IP address), ข้อมูลคุกกี้ (Cookies), ข้อมูลประเภทอุปกรณ์ที่ใช้งาน, ข้อมูลแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้ในการเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา, หน้าเว็บไซต์ที่เข้าเยี่ยมชม, เวลาที่เข้าเยี่ยมชม

- ข้อมูลภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวของท่านจากการบันทึกภาพของระบบรักษาความปลอดภัยหรือการบันทึกภาพกิจกรรมภายในพื้นที่ของบริษัท

- ข้อมูลสิ่งที่ท่านสนใจ เช่น ความชอบ, งบประมาณสำหรับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท, เหตุผลในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท, ความเห็นใด ๆ จากการตอบแบบสอบถามของบริษัท, ข้อมูลการเสนอขายที่ดิน, ข้อมูลการสมัครงาน, ข้อมูลการแจ้งซ่อมและร้องเรียนต่าง ๆ

- ข้อมูลการด้านการตลาดและการสื่อสาร เช่น รูปแบบการรับข้อมูลด้านการตลาดจากบริษัท, รายละเอียดวัน เวลา และช่องทางการติดต่อระหว่างท่านและบริษัท, บทสนทนาระหว่างท่านและตัวแทนของบริษัทในรูปแบบเสียงหรือข้อความ

 

โดยข้อมูลที่ทางบริษัทได้รับจากท่าน บริษัทสามารถเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และประมวลผลข้อมูลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งข้อมูลในลักษณะดังกล่าว มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

- ข้อมูลที่ต้องนำไปใช้ประกอบการดำเนินการตามสัญญา, การให้บริการของบริษัทตามความต้องการของท่าน, หรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย โดยหากบริษัทไม่ได้รับข้อมูลดังกล่าว บริษัทจะไม่สามารถดำเนินการตามสัญญา, ให้บริการ, หรือปฏิบัติตามกฎหมายได้

- ข้อมูลที่จำเป็นตามประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท เช่น กรณีการเก็บภาพถ่ายจากกิจกรรมภายในพื้นที่ของบริษัท

- ข้อมูลที่ประมวลผลโดยไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้ เช่น การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงสถิติที่ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลคนใดคนหนึ่งได้โดยเฉพาะ

 

สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ทางบริษัทจำเป็นต้องขอความยินยอมจากเจ้าของส่วนบุคคลทุกครั้งในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วในการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท จะไม่มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวใด ๆ และท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สามารถสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวแก่ทางบริษัทได้

 

ในกรณีที่การเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท มีการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์หรือโฆษณาอื่นภายนอกที่ไม่ใช่ของบริษัท นโยบายในการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้เป็นไปตามที่เจ้าของเว็บไซต์หรือโฆษณาอื่น ๆ เหล่านั้นเป็นผู้กำหนด โดยทางบริษัทจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ในส่วนที่อยู่นอกเหนือไปจากเว็บไซต์ของบริษัท

 

2. วิธีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน

บริษัทสามารถได้รับมาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าทั้งทางตรงหรือทางอ้อมผ่านทางช่องทางต่าง ๆ อันหมายรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ ช่องทางดังต่อไปนี้

 

- การให้ข้อมูลของท่านผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท

- การให้ข้อมูลของท่านผ่านแบบสอบถามของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกระดาษหรือรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

- การให้ข้อมูลของท่านแก่ตัวแทนของบริษัท ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือเป็นลายลักษณ์อักษร

- การให้ข้อมูลของท่านผ่านระบบโทรศัพท์ที่อาจบันทึกเสียงของท่าน

- การให้ข้อมูลของท่านเป็นเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินงานตามสัญญาระหว่างท่านและบริษัท

 

3. วัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ที่ได้รับจากท่าน ไม่ว่าจะจากช่องทางใด ๆ จะถูกนำไปประมวลผลภายใต้วัตถุประสงค์ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

 

3.1 เพื่อเป็นการปฏิบัติตามสัญญา (Contract)

บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญากับทางบริษัท เช่น การให้บริการแก่ท่านตามสัญญาหรือตามที่ท่านประสงค์ รวมถึงการติดต่อแจ้งให้ท่านทราบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการตามสัญญาหรือตามที่ท่านประสงค์ การประมวลผลข้อมูลเพื่อจัดทำเอกสารที่จำเป็น หรือการประมวลผลข้อมูลภายในบริษัทเพื่อให้สามารถดำเนินการตามสัญญาได้ โดยการประมวลผลตามวัตถุประสงค์นี้ ไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 

3.2 เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย (Legal Obligation)

บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีเหตุอันจำเป็นตามกฎหมายหรือตามคำสั่งจากหน่วยงานราชการที่มีอำนาจ เช่น การระงับยับยั้งหรือตรวจสอบการกระทำอันผิดกฎหมาย หรือการดำเนินการตามข้อบังคับของกฎหมายทั้งที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบันนี้หรือมีเพิ่มเติมในอนาคต โดยการประมวลผลตามวัตถุประสงค์นี้ ไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 

3.3 เพื่อประโยชน์สาธารณะ (Public Interest)

บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากหน่วยงานราชการ โดยการประมวลผลตามวัตถุประสงค์นี้ ไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 

3.4 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate Interest)

บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อรักษาสิทธิ์อันพึงมีของบริษัทในการบริหารจัดการภายใน รวมถึงการประมวลผลข้อมูลภายในกลุ่มธุรกิจเดียวกันเพื่อพัฒนารูปแบบการทำงานของบริษัท โดยทั้งหมดจะเป็นไปตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท เช่น การป้องกันและตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น เพื่อรักษาผลประโยชน์และรักษาความปลอดภัยของบริษัทและผู้ที่เกี่ยวข้อง และการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ร่วมกันระหว่างบริษัทและท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการตลาด เป็นต้น โดยการประมวลผลตามวัตถุประสงค์นี้ ท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอตรวจสอบและคัดค้านได้ ซึ่งบริษัทจะพิจารณาตามความเหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับการรักษาประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

3.5 ตามความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Consent)

บริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาแล้ว เมื่อทางบริษัทได้รับความยินยอมจากท่านแล้วเท่านั้น โดยทางบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น หนังสือขอความยินยอมไม่ว่าจะในรูปแบบเอกสารหรืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ซึ่งในหนังสือขอความยินยอมจะมีการระบุวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลของท่านไว้โดยละเอียด และอาจมีวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลของท่าน ดังต่อไปนี้

 

A. เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดและส่งเสริมการขาย เช่น นำเสนอข้อมูลรายละเอียดสินค้าและบริการที่บริษัทคาดว่าท่านจะสนใจ ข้อมูลการส่งเสริมการขายที่เฉพาะเจาะจงสำหรับท่าน เป็นต้น

B. เพื่อวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลให้ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การนำข้อมูลสถิติ ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลทางเทคนิคและการใช้งาน และข้อมูลความสนใจ มาประมวลผลร่วมกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจความต้องการของลูกค้า (Customer Profile) และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น เป็นต้น

C. เพื่อวัตถุประสงค์ในการติดต่อสื่อสารระหว่างบริษัทและเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อให้สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในข้อ A. และ B. ได้

D. เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริษัทสามารถอำนวยความสะดวกแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมนอกเหนือจากการดำเนินการตามสัญญา เช่น การติดต่อประสานงาน ประมวลผลหรือจัดส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังธนาคารหรือสถาบันการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เป็นต้น

E. เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวในกรณีที่เกิดความจำเป็น เช่น การรับรองลูกค้าหรือพนักงานให้ถูกต้องตามหลักศาสนา เป็นต้น

 

รายละเอียดช่องทางการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

 

A. แบบฟอร์มกระดาษ

เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้พบกับตัวแทนของบริษัทด้วยตนเอง อาจเกิดการขอข้อมูลส่วนบุคคลและขอความยินยอมจากท่านผ่านแบบฟอร์มกระดาษ ซึ่งท่านเจ้าของข้อมูลสามารถพิจารณาเลือกให้ข้อมูลส่วนบุคคล และเลือกให้ความยินยอมตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ ที่จะระบุไว้โดยละเอียด และเจ้าของส่วนบุคคลจะต้องทำการยืนยันตัวตนของท่านผ่านการลงนามบนแบบฟอร์มกระดาษเหล่านั้นเพื่อให้ทางบริษัทสามารถยืนยันการให้ความยินยอมของท่านได้

 

หลังจากนั้นทางบริษัทจะทำการบันทึกรายละเอียดการให้ความยินยอมของท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลขึ้นบนระบบบริหารจัดการความยินยอม (Consent Management Platform) ของบริษัทต่อไป ซึ่งทางบริษัทอาจเชื่อมโยงความยินยอมเข้ากับชุดข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ที่ท่านได้ให้ไว้ หรือ หมายเลขประจำตัวประชาชนของท่าน

 

B. ช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท หรือผ่านแอปพลิเคชั่นออนไลน์ของบริษัท

ในกรณีที่ท่านเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท และต้องการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ เช่น การสมัครงาน หรือ การลงทะเบียนขอรับข้อมูลโครงการ หรือ การลงทะเบียนเพื่อร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายและอื่น ๆ หรือ การขอใช้บริการที่ทางบริษัทเป็นผู้จัดหาให้ (เช่น บริการหลังการขาย, หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ) เป็นต้น ทางบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดแยกดังต่อไปนี้

 

a. เพื่อการสมัครงาน

เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยอมรับในเงื่อนไขประกาศความเป็นส่วนตัว และยินยอมให้ทางบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทางบริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อจุดประสงค์ตามฐานสัญญาให้เป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องการสมัครงาน และการประมวลผลดังกล่าวจะเกิดขึ้นภายในบริษัท, แผนกทรัพยากรบุคคล, และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัครเท่านั้น

 

b. เพื่อการลงทะเบียนขอรับข้อมูลโครงการ

เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยอมรับในเงื่อนไขประกาศความเป็นส่วนตัว และยินยอมให้ทางบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทางบริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อจุดประสงค์ตามฐานสัญญา สำหรับติดต่อกลับเพื่อแจ้งข้อมูลตามที่ท่านต้องการและบันทึกข้อมูลเชิงสถิติ, และเพื่อจุดประสงค์ตามฐานความยินยอม ในการติดต่อกลับในเชิงการตลาดเพื่อนำเสนอข้อมูลโครงการที่ใกล้เคียงและที่บริษัทคาดว่าจะอยู่ในความสนใจของท่าน, และในการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์

 

c. เพื่อการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือกิจกรรมอื่น ๆ

เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยอมรับในเงื่อนไขประกาศความเป็นส่วนตัว และยินยอมให้ทางบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทางบริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อจุดประสงค์ตามฐานสัญญา สำหรับติดต่อกลับเพื่อแจ้งข้อมูลตามที่ท่านต้องการและบันทึกข้อมูลเชิงสถิติเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้น ๆ, และเพื่อจุดประสงค์ตามฐานความยินยอม ในการติดต่อกลับเพื่อนำเสนอกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงและที่บริษัทคาดว่าจะอยู่ในความสนใจของท่าน, และในการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์

 

d. เพื่อใช้บริการที่ทางบริษัทเป็นผู้จัดหาให้

เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลยอมรับในเงื่อนไขประกาศความเป็นส่วนตัว และยินยอมให้ทางบริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทางบริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อจุดประสงค์ตามฐานสัญญา สำหรับติดต่อกลับ, แจ้งรายละเอียดและความคืบหน้าที่เกี่ยวข้องกับบริการที่ท่านต้องการ, และบันทึกข้อมูลเชิงสถิติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการที่ท่านต้องการเท่านั้น; และเพื่อจุดประสงค์ตามฐานความยินยอม ในการติดต่อกลับเพื่อนำเสนอบริการอื่นที่ใกล้เคียงและที่บริษัทคาดว่าจะอยู่ในความสนใจของท่าน, และในการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงการพัฒนาผลิตภัณฑ์

 

4. รายละเอียดการเปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลภายในเครือของบริษัท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

เพื่อเป็นการเพิ่มคุณภาพการบริการ และ/หรือ เพื่อเป็นช่องทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการ, แจ้งข้อมูลข่าวสารและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ได้ให้ความยินยอมไว้ บริษัทอาจประมวลผล, ให้บุคคล และ/หรือ หน่วยงานอื่นที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล, หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคล และ/หรือ หน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจะมีสัญญาการประมวลผลข้อมูลระหว่างบริษัท และ บุคคล และ/หรือ หน่วยงานอื่น สำหรับกำกับรายละเอียดในการดำเนินงาน โดยบุคคล และ/หรือ หน่วยงานต่าง ๆ นั้น มีดังต่อไปนี้

 

A. บริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เทสท์เมคเคอร์ จำกัด

B. พาร์ทเนอร์และพนักงานของบริษัท โดยจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับงานที่รับผิดชอบเท่านั้น

C. ผู้ที่ได้รับอนุญาตเป็นตัวแทนของบริษัทในการเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงตัวแทนของผู้รับจ้างของบุคคลนั้น

D. บุคคลอื่น รวมถึงตัวแทน ผู้รับจ้างของบุคคลนั้น ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท การจัดกิจกรรมทางการตลาด การเสนอข้อมูลข่าวสารของบริษัท รวมถึงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท เช่น การรับชำระเงิน การจัดทำข้อมูลเอกสาร ระบบเทคโนโลยี การส่งเอกสาร และการวิจัย เป็นต้น

E. นิติบุคคลอาคารชุด, นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร, ผู้บริหารอาคารชุด, และ/หรือ ผู้บริหารหมู่บ้านจัดสรร สำหรับโครงการที่พัฒนาหรือบริหารจัดการโดยบริษัทเท่านั้น

F. หน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลใดที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูล ภายใต้กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท หรือตามข้อตกลงที่บริษัทมีต่อหน่วยงานภาครัฐหรือบุคคลอื่นใด

 

5. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ทางบริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเคร่งครัด และเคารพในความเป็นส่วนตัวของท่าน จึงได้มีการดำเนินการเพื่อรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

 

5.1 จัดหมวดหมู่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลลับ (Confidential Information) ที่มีการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงไว้อย่างเคร่งครัด

 

5.2 มีมาตรการระดับองค์กรในการบริหารจัดการข้อมูล (Organizational Measure) และมาตรการเชิงเทคนิค (Technical Measure) เพื่อป้องกันการดักฟัง ปลอมแปลงข้อความ การเข้าถึง การใช้งาน หรือการเปลี่ยนแปลงโดยมิได้รับอนุญาต เช่น ระบบสารสนเทศในการรักษาความปลอดภัย นโยบายการรักษาข้อมูลความลับของลูกค้า เป็นต้น

 

5.3 พนักงาน ลูกจ้าง และผู้ให้บริการภายนอกของเรา (Supplier / Outsource / Service Provider) มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า ตามสัญญารักษาความลับที่ได้ลงนามไว้กับบริษัท

 

5.4 จัดทำกระบวนการเพื่อจัดการกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลหรือเกิดเหตุข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล (Data Breach) และจะแจ้งให้ท่านทราบหากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด โดยการดำเนินการจะเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

 

ทั้งนี้ บริษัทได้จัดหาโปรแกรมสำหรับบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีการวางระบบให้ต้องมีการคัดกรองก่อนนำข้อมูลไปประมวลผล โดยต้องอ้างอิงจากหลักวัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลหรือตามความยินยอมของท่านอย่างเคร่งครัด และมีการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงและการนำข้อมูลออกจากระบบไว้เฉพาะบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น โดยทางบริษัทจะทำการตรวจสอบ, เปลี่ยนแปลง, และ/หรือ ปรับปรุงระบบดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 

6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล (Data Retention)

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นในการบรรลุวัตถุประสงค์ที่เรารวบรวมไว้ กรณีที่ท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับเราไปแล้ว บริษัทจะทำการเก็บรักษาข้อมูลของท่านไว้ตามนโยบายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โดยมีระยะเวลา 10 ปี หรือตามความเหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อการตรวจสอบการให้สินค้าหรือบริการแก่ท่าน และเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว เราจะทำลายหรือทำข้อมูลให้ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ต่อไป

 

7. สิทธิเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject Rights)

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถยื่นคำร้องใช้สิทธิตามช่องทางการติดต่อที่บริษัทได้ให้ไว้ในหัวข้อที่ 9. ช่องทางติดต่อบริษัท โดยทาง MANA จะพิจารณารายละเอียด, ตอบกลับเพื่อแจ้งรายละเอียดหรือความคืบหน้า, และดำเนินการตามคำร้องของท่านโดยเร็วที่สุดภายใน 30 วัน

 

7.1 สิทธิในการถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)

ท่านมีสิทธิขอกเพิกถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัทในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทจะหยุดการประมวลผลข้อมูลของท่านโดยเร็วที่สุดรวมถึงอาจทำการลบข้อมูลของท่านออก เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด

 

7.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)

ท่านมีสิทธิขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือ ขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ได้ ซึ่งบริษัทจะดำเนินการตามที่ท่านร้องขอภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ

 

7.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)

ท่านมีสิทธิขอให้เราดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

 

7.4 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)

ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลที่เกี่ยวกับท่าน รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือ ขอรับข้อมูลที่เราส่งหรือโอนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่มีเหตุผลอื่นใดที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการได้

 

7.5 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)

ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ หรือ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ ในกรณีดังนี้

 

A. เมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่มีความจำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอีกต่อไป

B. ท่านถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะทำการประมวลผลได้

C. ท่านได้ทำการคัดค้านการประมวลผล

D. มีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมาย

E. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล คัดค้านการประมวลผลข้อมูล (นอกเหนือจากที่เกี่ยวข้องกับการคัดค้านการประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง) และเราไม่มีเหตุแห่งการอ้างการประมวลผลโดยประโยชน์อันชอบธรรม

 

7.6 สิทธิในการห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)

ท่านมีสิทธิห้ามมิให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้

 

A. เมื่อไม่มีความจำเป็นในการประมวลผลอีกต่อไป แต่การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลยังคงมีความจำเป็นเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย

B. เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอันมิชอบด้วยกฎหมาย แต่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต้องการห้ามมิให้มีการประมวลผลแทนการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของตน

C. เมื่ออยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

D. เมื่ออยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า

 

7.7 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)

ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล ในกรณี ดังนี้

 

A. กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง

B. กรณีที่เป็นการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์หรือสถิติ เว้นแต่การจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ

C. กรณีที่เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ด้วยเหตุจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ เหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เว้นแต่บริษัทได้แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า

 

7.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)

ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในกรณีที่บริษัท ลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัท กระทำการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

8. นโยบายการใช้คุกกี้ (Cookies Policy)

ทางบริษัทอาจมีการใช้งานคุกกี้หรือเทคโนโลยีอื่นที่ใกล้เคียงกันบนเว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางการเข้าถึงบริการของบริษัทที่นอกเหนือจากเว็บไซต์ (เช่น Line MANA Connect เป็นต้น) เพื่อช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้บริการ และช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนาคุณภาพของบริการให้ตอบสนองต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น

 

คุกกี้สามารถบันทึกข้อมูลรายละเอียดการใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดของบริษัท ของท่านให้บริษัททราบ เป็นประโยชน์เพื่อให้ทางบริษัทสามารถให้บริการท่านได้ดีและตรงกับความต้องการของท่าน รวมถึงช่วยให้ท่านใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลคุกกี้ที่ถูกบันทึกไว้จะทำให้ท่านเข้าถึงบริการด้วยค่าที่ตั้งไว้ทุกครั้งที่ใช้งาน ยกเว้นในกรณีที่คุกกี้ถูกลบ ซึ่งจะทำให้การตั้งค่ากลับไปเป็นค่าเริ่มต้น

 

คุกกี้ที่ทางบริษัทอาจใช้งานมีแบ่งเป็นประเภทต่าง ๆ โดยหมายถึงรวมถึง แต่ไม่จำกัดเฉพาะ ประเภทดังต่อไปนี้

 

A. คุกกี้ประเภทจำเป็นถาวร (Strictly Necessary cookies)

คุกกี้ประเภทนี้จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดของบริษัท เพื่อช่วยให้ท่านเข้าถึงข้อมูล และใช้เว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดของบริษัท ได้อย่างปลอดภัย จึงไม่สามารถปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้ได้

 

B. คุกกี้ประเภทการวิเคราะห์ และวัดผลการทำงาน (Analytic/Performance cookie)

คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้บริษัทสามารถวิเคราะห์หรือวัดผลการทำงานเพื่อให้บริษัทเข้าใจถึงความสนใจของคุณ เช่น การประมวลผลจำนวนผู้เยี่ยมชม, พฤติกรรมการเยี่ยมชมของผู้เยี่ยมชม, และจำนวนหน้าที่ผู้เยี่ยมชมใช้งานบนเว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดของบริษัท โดยบริษัทจะใช้ข้อมูลดังกล่าวในการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดของบริษัท ให้ตอบสนองตามความต้องการและการใช้งานของท่านให้ดียิ่งขึ้น

 

C. คุกกี้ประเภทการโฆษณา (Advertising cookies)

คุกกี้ประเภทนี้จะถูกบันทึกลงบนอุปกรณ์ของท่านเพื่อเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและลิงก์ที่ท่านติดตามหรือเยี่ยมชม เพื่อให้เข้าใจความต้องการของท่านและใช้ในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ ประชาสัมพันธ์ โฆษณา ให้เหมาะสมกับความสนใจของท่านมากที่สุด

 

D. คุกกี้ประเภทการทำงาน (Functional cookies)

คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้บริษัท “จดจำ” ท่านระหว่างการเยี่ยมชมและตั้งค่าเว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดของบริษัท ตามลักษณะการใช้งาน ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ท่านเลือกเพื่ออำนวยความสะดวกเมื่อท่านกลับเข้ามาใช้เว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดของบริษัท ในครั้งถัดไป เช่น การจดจำชื่อผู้ใช้งานของท่าน, การปรับขนาดตัวอักษร ภาษา และส่วนอื่น ๆ บนหน้าเว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดของบริษัท

 

ในกรณีที่มีการเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม เช่น เครือข่ายการโฆษณา สื่อสังคมออนไลน์ ผู้ให้บริการเว็บไซต์ภายนอกอื่น ๆ เป็นต้น คุกกี้บางประเภทอาจมีการจัดการโดยบุคคลที่สาม ซึ่งอาจมีนโยบายที่แตกต่างไปจากของบริษัท ในกรณีดังกล่าว ท่านจึงอาจจำเป็นต้องทำการศึกษาทำความเข้าใจในนโยบายคุกกี้, นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, และประกาศความเป็นส่วนตัวของบุคคลที่สามเพิ่มเติมด้วย

 

ทั้งนี้ หากท่านต้องการแก้ไข ปรับเปลี่ยน หรือถอนความยินยอมการใช้งานคุกกี้ ท่านสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองผ่านการตั้งค่าเบราว์เซอร์หรือการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของท่าน เพื่อระงับหรือจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ แต่ถ้าหากท่านปฏิเสธการทำงานของคุกกี้ทั้งหมด ท่านอาจไม่สามารถใช้งานเว็บไซต์ และ/หรือ ช่องทางอื่นใดของบริษัท ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

 

ท่านสามารถดำเนินการตั้งค่าและจัดการคุกกี้ในเบราวเซอร์ของท่านด้วยวิธีต่าง ๆ ตามประเภทและแบรนด์ของเบราวเซอร์ ดังต่อไปนี้ Chrome, Firefox, Safari (macOS), Safari (iOS), Internet Explorer

 

9. ช่องทางติดต่อบริษัท

หากท่านต้องการติดต่อเพื่อขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล หรือหากมีข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียนใด ๆ สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ได้ตามช่องทางต่อไปนี้

 

บริษัท มานะ พัฒนาการ จำกัด

สถานที่ติดต่อ: อาคารบางนาทาวเวอร์ เอ ชั้น 18, เลขที่ 2/3 หมู่ที่ 14 ถนนบางนา-ตราด ก.ม.6.5 ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540

หมายเลขโทรศัพท์ 02-111-0999

หมายเลขโทรสาร 02-044-1221

ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ dpo@manadevelopment.co.th