ชีวิตคนกรุงที่ไปทางไหนก็เจอแต่ฝุ่นและมลภาวะอย่างทุกวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอากาศบริสุทธิ์เป็นสิ่งหายากเต็มที
เมื่อเดินตามท้องถนน เราอาจหาหน้ากากอนามัยมาใส่ป้องกันตัวเองจากฝุ่นละอองและมลภาวะต่างๆ ได้ แต่เมื่อกลับมาอยู่บ้านจะให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาก็คงอึดอัดเกินทน ด้วยเหตุนี้ เครื่องฟอกอากาศดีๆ สักเครื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็นไม่น้อยสำหรับบ้านในเมือง เรามาดูกันว่า จะหาเครื่องฟอกอากาศสักเครื่อง ควรจะพิจารณาจากอะไรบ้าง
1. ขนาดของห้อง
ขนาดของห้องที่จะใช้เครื่องฟอกอากาศเป็นเรื่องแรกที่ควรคำนึงถึง เนื่องจากผู้ผลิตจะระบุไว้ชัดเจนว่าเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นเหมาะกับห้องขนาดกี่ตารางเมตร ถ้าขนาดของห้องที่ใช้เครื่องฟอกอากาศใหญ่กว่าที่ผู้ผลิตระบุไว้ ก็จะทำให้เครื่องฟอกอากาศไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ถ้าเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่ใหญ่กว่าขนาดห้อง ก็อาจกินไฟ และสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
2. แผ่นกรองอากาศ
แผ่นกรองอากาศหรือ Air Filter เป็นส่วนที่ดักจับฝุ่นและสิ่งสกปรกในอากาศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเครื่องฟอกอากาศ สำหรับเครื่องฟอกอากาศที่สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า PM 2.5 ได้ และนิยมใช้กันมากที่สุดคือแผ่นกรองอากาศแบบ HEPA หรือ High Efficiency Particulate Air Filter ซึ่งสามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอนทีเดียว
นอกจากจะดูประสิทธิภาพในการกรองของแผ่นกรองอากาศแล้ว เราควรคำนึงถึงอายุการใช้งาน ค่าใช้จ่าย ความยากง่ายในการหาซื้อแผ่นกรองอากาศ และบริการหลังการขายด้วย เพราะเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ แต่กลับไม่สามารถหาซื้อมาเปลี่ยนได้แล้วก็เท่ากับว่าเราอาจจะต้องลงทุนซื้อเครื่องใหม่ไปเลยก็ได้
3. ค่า Clean Air Delivery Rate และ Air Flow
ค่า Clean Air Delivery Rate หรือ CADR เป็นค่าสากลที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งได้จากการที่ผู้ผลิตส่งเครื่องฟอกอากาศรุ่นนั้นๆ ให้สถาบันที่น่าเชื่อถือเป็นผู้ทดสอบ หากเครื่องฟอกอากาศรุ่นไหนมีค่า CADR จะมีระบุไว้ชัดเจนว่า ในห้องขนาดนั้นๆ เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้สามารถกำจัดฝุ่นและสิ่งแปลกปลอมในอากาศได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนค่า Air Flow เป็นค่าวัดกำลังลมที่เครื่องฟอกอากาศดูดเข้าไปและปล่อยออกมา ยิ่งเครื่องฟอกอากาศมีกำลังลมมากก็หมายความว่าสามารถฟอกอากาศได้รวดเร็ว อย่างไรก็ตามค่ากำลังลมมักจะสัมพันธ์กับเสียงเมื่อเครื่องกรองอากาศทำงาน หากเป็นคนหูไว ก็อาจต้องคำนึงถึงเสียงของเครื่องกรองอากาศมาพิจารณาด้วย
4. ความสามารถในการทำงานด้านอื่นๆ
เครื่องฟอกอากาศสมัยนี้ นอกจากจะสามารถดักจับฝุ่นและสิ่งแปลกปลอมในอากาศได้แล้ว อาจมีความสามารถอื่นๆ เสริมเข้ามาด้วย เช่นบางรุ่นสามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วยแผ่นกรองคาร์บอน หรือฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา หรือเชื้อไวรัสในอากาศโดยใช้ประจุไฟฟ้าหรือแสง UV ได้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าฟังค์ชั่นเสริมเหล่านี้ ก็จะทำให้ราคาของเครื่องฟอกอากาศสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นควรเลือกตามความจำเป็นของครอบครัว เพื่อให้ได้เครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับที่พักอาศัยมากที่สุด