เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่คนรักบ้านไม่ควรมองข้าม สิ่งของที่มีค่าในบ้านแม้จะถูกเก็บเรียบร้อย มิดชิด แต่ถ้ามีคนไม่หวังดี รู้เห็นช่องทาง ก็อาจจะทำให้เกิดเหตุไม่คาดฝันได้
จริงอยู่ที่บ้านและคอนโดโครงการที่น่าเชื่อถือจะมีกล้องวงจรปิดและทีมพนักงานรักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง อย่างเช่นโครงการของ Mana Pattanakarn แต่พอมาเป็นพื้นที่ส่วนตัวอันนี้ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้านเองที่ต้องดูแล ดังนั้น “กล้องวงจรปิด” จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คนรักบ้านหลายท่านตัดสินใจเลือกซื้อมาใช้งาน ว่าแต่ถ้าลองมองไปดูในท้องตลาด จะมีกล้องวงจรปิดหลากหลายแบบ หลากหลายราคามาก ก็จะเริ่มสงสัยแล้วว่าบ้านเราเหมาะกับการติดกล้องวงจรปิดแบบไหนดี
วันนี้ Mana Pattanakarn ขอนำเสนอแนวคิดวิธีตัดสินใจติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมนำเสนอโซลูชันให้คุณเลือกตัดสินใจ ไม่ว่าจะซื้อมาติดตั้งเอง หรือจ้างทีมช่างที่ไว้ใจได้มาดูแลงานนี้ให้กับบ้านอันเป็นที่รักของคุณ
คิดจะติดกล้องรอบบ้าน หรือเอาเฉพาะที่สำคัญ
ก่อนจะเลือกกล้องวงจรปิด ต้องตอบคำถามในใจก่อนว่าอยากติดทั้งบ้านในมุมสำคัญต่างๆ เช่น ทางเข้าออก ประตู โถง หรือเอาเฉพาะจุด ถ้าไม่เกิน 2–3 จุด แนะนำว่าหากล้องวงจรปิดแบบไวไฟแบบวางตั้ง ไม่ต้องเดินสายหรือเจาะจุดยึด แต่ถ้าคิดจะติดเป็นจำนวน 4, 8, 16 ตัวแล้วล่ะก็ ดูเป็นชุดติดตั้งแบบถาวรเลยดีกว่า
Xiaomi Home Security Camera 360° วางไว้ตามจุดต่างๆ แล้วเปิดแอพ เกาะเข้ากับไวไฟ น่าจะเหมาะกับคอนโดพื้นที่ไม่ใหญ่นัก
กล้องแบบถาวรจะต้องเดินสาย
กล้องวงจรปิดแบบจัดชุดขายที่เราเห็นกันในราคาตั้งแต่ไม่กี่พันไปจนถึงหลักหมื่นบาทนั้น จะมีสองแบบใหญ่ๆ คือ กล้องแบบแอนะล็อก ที่จะเดินสายจากกล้องแต่ละตัวมายังจุดศูนย์กลาง มีกล่องบันทึก (DVR — Digital Video Recorder) ที่มีฮาร์ดดิสก์และเก็บวิดีโอไว้อยู่ข้างใน กับกล้องแบบ IP Camera ที่จะส่งสัญญาณภาพผ่านสายแลน (LAN, Ethernet cable) ไปยังกล่องบันทึกที่มีฮาร์ดดิสก์บันทึกภาพเช่นเดียวกัน แล้วกล่องบันทึกทั้งสองแบบจะต่อกับเราท์เตอร์ ตั้งค่าอะไรบางอย่างให้เราสามารถเปิดดูผ่านแอพพลิเคชั่นจากนอกบ้านได้ ราคาของกล้องแอนะล็อกกับ IP Camera ถ้าจัดชุด อย่างหลังจะแพงกว่าบ้าง
และระหว่างการชี้ว่าจะติดมุมไหนบ้าง แนะนำให้ “วาดแพลน” พร้อมตีเส้นมุมกล้องที่อยากให้ภาพออกมาทางไหน
สายสัญญาณกล้องวงจรปิดมีทั้งแบบที่ต้องเดินสายไฟตามจุดต่างๆ ที่จะติดกล้อง (ต้องทำเต้าเสียบแยก) กับอีกแบบคือฝากไฟจากจุดศูนย์กลาง (ที่กล่องบันทึก) ไปยังตัวกล้องเลย ราคาก็จะต่างกันไปอีก เราแนะนำว่าเพื่อความสวยงาม ลงทุนกับการฝากไฟไปยังกล้องแต่ละจุดเลยดีกว่า โดยเฉพาะกล้องแบบ IP Camera ที่รองรับการส่งไฟไปทางสายแลน หรือ PoE (Power on Ethernet) ที่สามารถประยุกต์ใช้กับชุดเราเตอร์และ Access Point ได้ด้วย เดินสายแลนครั้งเดียวจบได้ทั้งกล้องวงจรปิดและไวไฟ
ความทนทานเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อกล้องในบางจุดต้องโดนแดด ฝน ฝุ่นตลอดเวลา มันจะมีโอกาสที่จะได้ภาพเบลอ ไม่ชัด หรือการมองเห็นในที่มืดไม่ดีพอ ทั้งกล้องแบบแอนะล็อกและ IP Camera ไม่ว่าจะยี่ห้อจีนๆ หรือมียี่ห้อหน่อยก็จะมีอะไหล่เปลี่ยนและสามารถใช้ร่วมยี่ห้อ หลากหลายความละเอียด (กล้องแอนะล็อกวัดเป็นจำนวนเส้น, กล้อง IP Camera วัดเป็นเมกะพิกเซล) กันได้หากใช้มาตรฐานของสายเหมือนกัน รวมถึงเทคนิคการเข้าสาย คุณภาพสาย ก็มีผลกับความทนทาน แต่การรื้อทั้งระบบไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น ลงทุนกับสายให้ดีที่สุดเข้าไว้ ของอย่างอื่นเปลี่ยนได้ตามระยะเวลา
เทคนิคเฉพาะของช่าง
ช่างที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างมีประสบการณ์จะแนะนำการติดตั้ง คาดการณ์มุมกล้อง และลงทุนกับเทคนิคการเดินสายและติดตั้งอย่างระมัดระวัง ลองสังเกตงานติดตั้งกล้องของอาคารและบ้านหลังอื่นๆ เก็บไว้เป็นแนวทางไว้บรีฟช่าง หรือถ้าใครมีพื้นฐานเรื่องงานไฟฟ้าเป็นทุนเดิม จะลงมือ DIY เองก็ไม่ยากมาก และปลอดภัยกว่าการจ้างใครก็ไม่รู้มาสอดส่องพื้นที่ในบ้านของเรา (ช่างอาจจะมาเป็นขโมยเองก็เป็นได้)
จำรหัสผ่านไว้เป็นความลับ
ติดกล้องรอบบ้านแต่ใช้รหัส “1234” แล้วเขียนแปะแผ่หราไว้ก็กระไรอยู่ การตั้งรหัสเฉพาะตัวที่ตนเองเท่านั้นจำได้เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะรหัสที่เข้าไปยังกล่องบันทึก และควรซ่อนกล่องบันทึกภาพไว้สักหน่อยเผื่อเกิดเหตุจะได้ป้องกันการทำลายหลักฐาน
จริงๆ แล้วศาสตร์แห่งการเลือกกล้องวงจรปิดเราสามารถเจาะลึกและพาลุยในส่วนของการเลือกซื้ออุปกรณ์ได้อีกมาก แต่เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับคุณในการทำการบ้านต่อได้แล้วจ้า
----------------------------------------
Mana Patanakarn
Designing Life's Foundation "มองรอบด้าน เพื่อชีวิต"
www.manapat.co.th
#มานะพัฒนาการ
#ManaPatanakarn
#DesigningLifesFoundation