ความร้อนยังไม่จางหาย แต่ฝนเริ่มกระจายในหลายพื้นที่ บางแห่งมีลมพายุกระโชกแรง และเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหาย มาเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือฤดูฝน กันดีกว่า
ตรวจสภาพหลังคา
โดยปกติควรตรวจสภาพหลังคาปีละสองครั้ง หากพบรอยร้าวหรือรอยแตกของกระเบื้องหลังคาจะได้รีบซ่อมแซม เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ให้ปะทะกับทั้งลมทั้งฝนจนเกิดความเสียหายหนัก ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอาจยิ่งเพิ่มมหาศาล
ตรวจสภาพรางน้ำและท่อระบายน้ำ
ตรวจดูสภาพรางน้ำและท่อน้ำว่ายังสามารถระบายน้ำได้ดี ไม่มีสิ่งอุดตันที่จะทำให้น้ำขัง และในช่วงฤดูฝนควรทำความสะอาดรางน้ำและท่อระบายน้ำทุกสัปดาห์เพื่อไม่ให้มีเศษใบไม้หรือสิ่งสกปรกตกค้างในรางน้ำ
ตรวจสภาพเพดานและผนังบ้าน
ตรวจดูสภาพหลังคาภายนอกแล้ว อย่าลืมเช็กเพดานและผนังภายในบ้านด้วยว่ามีรอยรั่วซึม รอยแตกร้าวหรือไม่ สังเกตดูฝ้าเพดานมีรอยคราบน้ำหรือมีการเปลี่ยนสีไปหรือเปล่า หากพบความผิดปกติจงรีบแก้ไข ป้องกันไว้ดีกว่ามาตามแก้ทีหลัง
ตรวจสภาพประตูและหน้าต่าง
ตรวจสภาพประตูและหน้าต่างให้แน่ใจว่าแข็งแรงทนทาน เพราะนอกจากต้องปะทะกับน้ำฝนแล้ว อาจเจอลมพายุรุนแรงได้
ตรวจสภาพต้นไม้ในบริเวณบ้าน
ตัดแต่งกิ่งไม้ให้พร้อม กิ่งที่แห้งตายแล้วตัดทิ้ง ถ้าปล่อยไว้เวลาที่ฝนตกหนักลมแรงอาจพัดกิ่งไม้หักมาโดนบ้านเสียหายได้
เตรียมถุงทรายให้พร้อม
สำหรับบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขังบ่อย ๆ เตรียมถุงทรายสำหรับกั้นน้ำไว้ให้พร้อมจะดีมาก
เตรียมย้ายเฟอร์นิเจอร์หลบฝนหรือขึ้นที่สูง
ย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปไว้ในจุดที่ไม่เสี่ยงโดนฝนสาด และติดตามข่าวสารพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด หากบ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเตรียมย้ายข้าวของเฟอร์นิเจอร์ขึ้นที่สูงไว้ให้พร้อม
ปิดฝาโอ่งและคว่ำภาชนะที่จะขังน้ำฝน
หากที่บ้านมีโอ่งหรือภาชนะกักเก็บน้ำควรปิดฝาให้มิดชิด หรือถ้ามีภาชนะที่น้ำจะขังได้ให้คว่ำไว้ เพราะหากน้ำขังจะกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายซึ่งเป็นสาเหตุของไข้เลือดออกได้
----------------------------------------
Mana Patanakarn
Designing Life's Foundation "มองรอบด้าน เพื่อชีวิต"
www.manapat.co.th
#มานะพัฒนาการ
#ManaPatanakarn
#DesigningLifesFoundation